10-ประเด็นร้อน-ประจำสัปดาห์ 2017-10-27

          วันนี้เราจะมานำเสนอ 10 อันดับประเด็นร้อนที่น่าสนใจเกี่ยวกับวงการลูกหนังที่จะทำให้คอบอลนั้นต้องตั้งหน้าตั้งตารอชมไปพร้อมๆ กันอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นทีมเล็ก ทีมใหญ่ เราใส่หนักจัดเต็มยำรวมกันมาให้อย่างจุใจกันแน่นอน

1) แมตช์สุดระทึกผีดวลไก่

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีสถิติ 100% ในบ้านซีซั่นนี้ พวกเขาชนะทุกเกมที่ลงเล่น แต่สเปอร์สเอง ก็มีฟอร์มที่เยี่ยมมาก เราไม่นับเกมพ่ายเวสต์แฮมกลางสัปดาห์ ในเกมที่พวกเขาส่งชุดใหญ่ลงจริงๆ ก็ชนะคู่แข่งได้ตลอด

ลิเวอร์พูลโดนถล่ม 4-1 ส่วนเรอัล มาดริดก่อนหน้านั้น ก็เกือบแพ้ คาซานติอาโก้ เบร์นาเบว ดังนั้น การเจอกันของสองทีมลุ้นแชมป์ อย่างแมนฯยู กับ สเปอร์ส อาจทำให้เราได้รู้ว่า ทีมไหนคู่ควร ในการเป็นผู้ท้าชิงแชมป์กับแมนฯซิตี้มากกว่ากัน

2) หงส์ต้องคัมแบ็กถ้าหวังท็อปโฟร์

โอกาสลุ้นแชมป์ของลิเวอร์พูล น่าจะเลือนรางมาก หลังโดน กลุ่มนำสปรินท์แต้มหนีไปไกล ทั้งๆที่ยังไม่ผ่าน 10 เกมแรก ตอนนี้ พวกเขาต้องไปลุ้นท็อปโฟร์ในตารางคะแนน กับเชลซี และอาร์เซน่อลแล้ว ใน 6 เกมหลังสุด ของพรีเมียร์ลีก หงส์ชนะ แค่ 1 เกมเท่านั้น คือเยือนเลสเตอร์ ดังนั้น นี่จะเป็นโอกาสอันดีมาก ในการคัมแบ็กกลับมาเก็บสามแต้มให้ได้  การเล่นในแอนฟิลด์ เจอทีมน้องใหม่ คงไม่มีเกมไหนจะเหมาะกว่านี้แล้ว แต่อย่าลืม ฮัดเดอร์สฟิลด์ ก็ไม่ธรรมดา นี่คือทีมแรกที่ยัดเยียดความปราชัยให้ ปีศาจแดงได้ ซึ่งถ้าสุดท้ายลิเวอร์พูลไม่ชนะ โอกาสลุ้นท็อปโฟร์ก็ยิ่งห่างไกลไปเรื่อยๆอีก

3) ใครจะหยุดเรือใบอยู่?

ไปๆมาๆ แมนฯซิตี้ กลายเป็นทีมที่เกมรุก อันดับหนึ่งในยุโรปไปแล้วด้วยจำนวน 32 ลูก ลูกทีมของกวาร์ดิโอล่า ยิงมากกว่า บาเยิร์น มิวนิค, บาร์เซโลน่า ,ยูเว่ หรือเรอัล มาดริด ด้วยซ้ำ ขณะที่เกมรับ ก็เป็นอันดับหนึ่งในพรีเมียร์ลีก เสียไปแค่ 4 ลูกจาก 9 เกมเท่านั้น ถือว่าไม่ธรรมดามาก 8 เกมหลังสุด เวสต์บรอมไม่ชนะใครเลยสักเกม แถมการเจอกับแมนฯซิตี้ ในลีกคัพรอบ 3 ก็แพ้คาบ้านมา จึงนึกไม่ออกว่า จะเอาอะไรมาหยุด อเกวโร่ กับ กาเบรียล เชซุสอยู่ ซึ่งถ้าสุดท้าย เวสต์บรอมมีแต้มในเกมนี้ จะเป็นเซอร์ไพรส์ออฟ เดอะ วีค เลยทีเดียว

4) อันดับ 1 และ 2 บอลเยอรมันเจอกัน

ในซีซั่นที่แล้ว บาเยิร์น จบด้วยการเป็นแชมป์ ส่วนที่ 2 คือไลป์ซิก ทั้งสองทีมมาโคจรเจอกันเป็นครั้งแรกในซีซั่นนี้ โดยจะแข่งเป็นคู่ดึกของบุนเดสลีกา วันเสาร์ นับตั้งแต่เปลี่ยนโค้ชเป็นจุ๊ปป์ ไฮย์เกส ดูทิศทางของบาเยิร์น จะดีขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ไลป์ซิก อาจจะออกตัวไม่แรง แต่ไปๆมาๆ พวกเขามาอยู่อันดับ 3 ของตาราง จี้ กลุ่มผู้นำแค่ 1 คะแนนเท่านั้น

บาเยิร์น แข็งแกร่งตามปกติอยู่แล้ว แต่ไลป์ซิกมีบทเรียน ที่แพ้บาเยิร์นมาแบบเหย้าเยือนในลีก รวมถึงแพ้ในเดเอฟเบ โพคาลจากจุดโทษด้วย ดังนั้น พวกเขาคงไม่ยอมเสียท่าง่ายๆ โดยเฉพาะการแพ้ขาดลอย ที่อัลลิอันซ์ อารีน่า 3-0 แบบปีที่แล้ว คงยากจะเกิดขึ้นอีกครั้งในปีนี้

5) ดอร์ทมุนด์ต้องฉวยโอกาส

ในเวลาเดียวกัน ขณะที่บาเยิร์น กับ ไลป์ซิกตัดแต้มกันเอง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จะไปเยือนฮันโนเวอร์ ทีมอันดับ 6 ในตารางบุนเดสลีกา ฮันโนเวอร์ อาจจะมีอันดับดี แต่ถ้าเจาะไปที่รายละเอียด พวกเขายิงได้แค่ 10 ลูกเท่านั้น น้อยที่สุด หากเทียบกับทีมครึ่งบนของตาราง ขณะที่ ดอร์ทมุนด์ คือทีมเกมรุกอันดับหนึ่งในลีก 25 ลูก และเสียน้อยสุดในลีก 7ลูก พวกเขาเป็นต่อพอตัว แม้ต้องไปเยือน บาเยิร์น กับ ไลป์ซิก จะตัดแต้มกันเอง ดังนั้น ดอร์ทมุนด์จะพลาดไม่ได้ พวกเขาต้องทำแต้มฉีกให้ได้ในเกมนี้

6) บิ๊กแมตช์กัลโช่ มิลาน vs ยูเว่

ปีนี้ เอซี มิลาน ทำให้แฟนๆเร้าใจได้ไม่เบา เมื่อซื้อตัวดีๆ เสริมทัพเพียบ แต่ผลงานซีซั่นนี้ ก็ยังไม่ค่อยโอเคนัก อยู่อันดับ 8 ของตารางคะแนน ห่างจากจ่าฝูงนาโปลี ถึง 12 แต้ม จุดอ่อนของมิลาน คือการเจอทีมใหญ่ด้วยกัน พวกเขาแพ้ลาซิโอ แพ้โรม่า แพ้อินเตอร์  โอเคอาจจะตบทีมเล็กได้ แต่การลุ้นแชมป์ คุณต้องชนะทีมใหญ่ได้บ้าง

นัดนี้ มิลาน มาเจอกับยูเวนตุส ที่ปีนี้ ฟอร์มยังไม่ร้อนเต็มร้อย อยู่อันดับ 3 ของตารางคะแนน ยูเว่ เกมนี้จัดเต็มแน่นอน และจะเป็นบทพิสูจน์สำคัญของมิลานเลยว่า จะดีพอที่กลับมาเป็นทีมใหญ่หรือยัง หรือว่า ต้องใช้เวลาอีกสักระยะ

7) นาโปลี ต้องตัดสินใจจะเน้นรายการไหน

สถานการณ์ของนาโปลี เป็นเรื่องน่าคิดมาก เพราะพวกเขาจะลงแข่งในวันอาทิตย์ ในกัลโช่เซเรียอา เล่นในบ้าน ซานเปาโล พบกับซาซซูโอโล่ แต่จุดที่น่าสนใจกว่านั้น อยู่ที่อีก 3 วันต่อมา พวกเขาต้องรับมือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในบอลยุโรป ถ้าพวกเขาแพ้ แมนฯซิตี้คาบ้าน และ ชัคเตอร์ โดเน็ตส์ ไปชนะเฟเยนูร์ด ได้ในเกมที่แข่งพร้อมกัน พวกเขาแทบจะตกรอบทันที ดังนั้น เกมนี้ก็สำคัญ  แต่ในกัลโช่ พวกเขาเป็นจ่าฝูงอยู่ การส่งชุดใหญ่ลงบุ๊ เพื่อเก็บชัยให้ได้ ก็สำคัญเหมือนกัน เป็นคำถาม ที่เมาริซิโอ ซาร์รี่ โค้ชของนาโปลี ต้องตัดสินใจ เราจะได้เห็นภาพที่ชัดเจน วันอาทิตย์นี้ด้วย

8) บัลเบร์เด้ พาบาร์ซ่าเยือนถิ่นเก่า

สุดสัปดาห์นี้ ในลาลีกา คู่ที่น่าจับตามองคือ แอธเลติก บิลเบา จะเปิดซานมาเมส ต้อนรับ บาร์เซโลน่า จ่าฝูงบอลสเปน นี่เป็นการกลับมาเยือนถิ่นเก่าครั้งแรก ของเฮดโค้ช เออร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ หลังจากอำลาบิลเบา เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาด้วย ดังนั้น เขาย่อมรู้จักนักเตะในทีมคู่แข่งเป็นอย่างดี กลางสัปดาห์ บาร์ซ่า พักตัวหลักทั้งเมสซี่ , ซัวเรซ และอิเนียสต้า ในเกมโกปา เดลเรย์ กับเรอัล มูร์เซีย ดังนั้น ทั้งหมดจะคัมแบ็กกลับมาลงเกมนี้แน่นอน บาร์ซ่ามาแบบจัดเต็มแน่ อย่างไรก็ตาม สถิติของบิลเบา ซีซั่นนี้ แพ้ในบ้านแค่ 1 เกม ดังนั้น อาจไม่ใช่ของง่ายของทีมอาซูลกราน่าซะทีเดีย

9) เกมคิโรน่า กับ เรอัล มาดริด จะแข่งได้ไหม?

คิโรน่า เป็นสโมสรจากแคว้นคาตาลุนย่า การมาเจอกับเรอัล มาดริด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศสเปน จึงมีเค้าจะเกิดเหตุวุ่นวายแน่ๆ ในสถานการณ์ที่การเมือง เรื่องการแบ่งแยกรัฐ กำลังร้อนแรงแบบนี้  เรอัล มาดริด จะไม่ใช้รถโค้ชของสโมสร เดินทางไปแข่งในเกมนี้ เพื่อการรักษาความปลอดภัย และ จะมีรปภ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มขึ้นในเกมนี้อีกจำนวนมากกว่าเดิม มีข่าวลือออกมาว่า เกมนี้อาจจะเลื่อนออกไป อย่างไรก็ตาม ซีเนอดีน ซีดาน เฮดโค้ชราชันชุดขาว ให้สัมภาษณ์ว่า "เราได้ยินเรื่องการเลื่อนเกมออกไป แต่เราอยากลงเล่น และเชื่อว่าจะไม่มีเหตุที่รุนแรงขนาดนั้นเกิดขึ้น" แต่เรื่องการเมือง อะไรก็คาดเดาไม่ได้ จะเล่นได้ไหม ต้องมาลุ้นกันนาทีต่อนาที

10) เปแอสเช จะทำอย่างไรเมื่อไร้เนย์มาร์?

ซีซั่นนี้ ใน 10 เกม ปารีส เสมอแค่ 2 ที่เหลือชนะรวด โดยสองเกม ที่เกิดขึ้น คือเสมอมงต์เปลลิเยร์ 0-0 และ เสมอมาร์กเซย 2-2 โดยสิ่งที่เชื่อมโยงกันของสองเกมนี้คือ เนย์มาร์เล่นไม่ครบ 90 นาที กับ มงต์เปลลิเยร์ เนย์มาร์เป็นสำรอง ส่วน กับมาร์กเซย เขาโดนใบแดง มันแสดงให้เห็นว่า เปแอสเช มีปัญหาในเกมรุกเมื่อขาดเนย์มาร์ จากการติดโทษแบน ทำให้ในการเจอกับนีซ คืนนี้ ปารีสฯ ต้องเผชิญหน้ากับการไม่มีเนย์มาร์อีกครั้ง ต้องมาดูว่า พวกเขาจะเอาตัวรอดได้หรือไม่ เมื่อเจอทีมที่ไม่ธรรมดาอย่างนีซ